ทำอย่างไรจึงป้องกันการติดเชื้อไวรัส

การป้องกันการติดเชื้อไวรัส ได้แก่
          ป้องกันตนเองจากการติดเชื้อจากคนที่กำลังเป็นโรคโดยใช้วิธีการป้องกันและรักษาความสะอาดของตนเองเป็นหลัก ซึ่งรวมถึงการรักษาสุขอนามัยพื้นฐาน (สุขบัญญัติแห่งชาติ) เช่น
  • การใส่หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อเข้าทางลมหายใจ
  • การรับประทานเฉพาะอาหารที่ปรุงสุกแล้ว
  • ล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร
  • ล้างมือทุกครั้งหลังถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ
  • ล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังการสัมผัสผู้ป่วย
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยด้วยมือเปล่า เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคอีสุกอีใสเพราะอาจติดโรคได้
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชนหนาแน่นหรือไม่มีที่ระบายอากาศที่เพียงพอ
  • มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและใช้ถุงยางอนามัยเสมอ
  • ไม่ใช้ยาเสพติดทุกชนิด
  • ไม่ทำให้ร่างกายอ่อนแอด้วยการอดหลับอดนอนหรือเที่ยวกลางคืน
  • ไม่ดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่
  • อย่าจูบปากกับคนที่ไม่รู้จักหรือไม่รู้ว่าเป็นพาหะของโรคหรือไม่
  • อย่าใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนอื่น
  • นอนกางมุ้งอย่าให้ยุงลายกัด
  • ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในบ้าน
  • ถ้ามีผู้ป่วยในบ้านควรแยกผู้ป่วยในห้องส่วนตัวห่างจากคนอื่นๆเพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อ
  • และควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้สุนัขและแมวทุกตัวในบ้าน

อีกวิธีคือ การฉีดวัคซีนป้องกัน เช่น วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โรคหัด โรคอีสุกอี ใส โรคไวรัสตับอักเสบชนิด บี (Hepatitis B virus) โรคหัดเยอรมัน โรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส โรคคางทูม หยอดวัคซีนโปลิโอทางปากในเด็ก และปลูกฝีป้องกันโรคไข้ทรพิษ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม วัคซีนไม่สามารถป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสได้ทุกชนิด เพราะมีอีกหลายโรคที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันเช่น โรคเอดส์ โรคไข้เลือดออก นอกจากนั้นบางคนได้วัคซีนแล้วร่างกายไม่ยอมสร้างภูมิคุ้มกันต้านทานก็มีอยู่บ่อยๆ หรือบางทีได้วัคซีนแล้ว แต่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต้านทานไม่ทัน เช่น โรคพิษสุนัขบ้าในบางรายที่ระยะฟักตัวสั้นมากก็จะเป็นโรคก่อนที่จะป้องกันได้ เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น